รีวิวชีวิตในกลาสโกลว์ เหนือสุดของเกาะอังกฤษ เป็นอย่างไร ไปอ่านกัน!

Writer : Toonyawat from Strathclyde University

ชีวิตนักเรียนไทยในกลาสโกวเป็นอย่างไรกันบ้างนะ ส่วนใหญ่พวกเขาทำอะไรกันในแต่ละวัน แล้วสภาพอากาศเป็นอย่างไร

หลายๆคน คงคุ้นเคยกับเมืองกลาสโกวกันพอสมควร เพราะเมืองกลาสโกวนั้น เป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองของสก็อตแลนต์รองมาจากเมืองหลวงอย่างเอดินเบอระกันเลยทีเดียว

ในความเป็นจริงแล้ว กลาสโกวเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสก็อตแลนด์เลยก็ว่าได้ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ และแหล่งช็อปปิ้งอีกมากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะแหล่งช็อปปิ้งที่เรียกได้ว่า นักท่องเที่ยวสายช็อปไม่ควรพลาดเลย เพราะที่นี่มีถนนคนเดิน (Shopping street) ที่เลื่องชื่อ อย่างถนนบูคานัน (Buchanan street) ที่เป็นศูนย์กลางย่านการค้าใจกลางเมืองกลาสโกว

ผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา Cosmetic หรือเครื่องสำอางทั้งหลายก็สามารถหาซื้อที่นี่ได้หมดเลยนะ แถมที่นี่ก็จะมีเทศกาลที่สินค้าจะลดราคากระหน่ำเป็นช่วงๆ ฉะนั้นหากใครที่คิดจะมาเรียนหนังสือหรือใช้ชีวิตที่กลาสโกวล่ะก็ อาจจะต้องหักห้ามใจและบริหารเงินในกระเป๋ากันดีๆหน่อยแล้ว ไม่งั้นมีหวังหมดตัวแน่เลยเน้อ

เชื่อว่าหลายๆคนที่ตัดสินใจจะมาเรียนหนังสือที่กลาสโกว

คำถามที่หลายๆคนมักจะเป็นกังวลอยู่เสมอ คงหนีไม่พ้นเรื่องของสภาพอากาศ หลายคนคงได้ยินกันมาบ้างแล้วถึงสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวนในกลาสโกว ซึ่งจริงๆก็เป็นผลอันเนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ เพราะสก็อตแลนด์นั้นเป็นประเทศหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเกาะอังกฤษตอนบนนั่นเอง ฉะนั้นทุกปี
ก็จะมีลมมรสุมพัดผ่านเป็นช่วงๆ สภาพอากาศหลักๆ จึงมีฝนตกค่อนข้างบ่อย แต่ว่าจะเป็นในลักษณะตกปรอยๆ ไม่ตกหนักเหมือนที่ไทย และแน่นอนว่าที่นี่นั้นก็จะมีลมพัดค่อนข้างแรง จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าคนกลาสโกวจะนิยมใส่เสื้อที่มีฮู้ด (Hood) หรือเสื้อกันหนาวที่เป็นทั้งเสื้อกันฝนไปในตัว ร่มจะไม่เป็นที่นิยมใช้กันสักเท่าไหร่เพราะจะถูกลมพัดปลิวได้ แต่อย่าเพิ่งตกใจเพราะกลาสโกวก็มีวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศปลอดโปร่งเหมือนกันเน้อ

โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน
จะเป็นช่วงที่อากาศดีมาก มีฝนตกค่อนข้างน้อย อบอุ่นเย็นสบาย สามารถใส่เสื้อแขนสั้นเดินเล่นชิวๆในเมืองกันได้เลย ต้องบอกว่าฟินสุดๆ สำหรับหน้าหนาวโดยทั่วไปก็จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนเษายน หนาวสุดๆคงเป็นช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอุณหภูมิต่ำสุดก็จะอยู่ที่ประมาณ -8 ถึง -10 องศา บางวันก็มีหิมะตกด้วยนะจ๊ะ เรียกได้ว่าหนาวเหน็บกันเลยทีเดียวจ้า และไม่ใช่แค่หนาวอย่างเดียวนะ บางครั้งก็มีลมและฝนมาคู่กันเลย ฉะนั้นจะเดินทางไปไหนมาไหนในช่วงนี้ก็ต้องแต่งกายให้เหมาะสม เพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ที่ว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้นี่คือต้องขอสาธยาย เพิ่มอีกนิด เพราะบางวันในช่วงหน้าหนาว สภาพอากาศก็เปลี่ยนไวมากจากหน้ามือเป็นหลังมือ
อย่างเช่นว่า ตอนนี้ฝนกำลังตก ไม่กี่นาทีต่อมาก็มีหิมะ หลังจากนั้นไม่นานก็มีลมพัดและปิดท้ายด้วยแดดออก เรียกได้ว่าผจญครบสี่ฤดูในหนึ่งวันกันเลยทีเดียว  55555!

สำหรับชีวิตนักเรียนไทยในกลาสโกวนั้น ก็มีหลากหลายตามสไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน
ปัจจุบันมีนักเรียนไทยเรียนอยู่ในกลาสโกวทั้งสิ้นราวๆ 150 คน ส่วนใหญ่จะเรียนกันอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตรธไคลด์ (University of Strathclyde) และมหาวิทยาลัยกลาสโกว (University of Glasgow) และมีกระจายตัวเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยอื่นๆบ้างประปราย เช่น มหาวิทยาลัยคาเลโดเนียนแห่งกลาสโกล (Glasgow Caledonian University) มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งกลาสโกว (Glasgow School of Art) จริงๆแล้วกลาสโกวเป็นเมืองที่มีนักเรียนไทยมาเรียนเยอะที่สุดในสก็อตแลนด์เลยก็ว่าได้ เยอะมากกว่าจำนวนนักเรียนไทยในเมืองหลวงอย่างเอดินเบอระเสียอีก สาเหตุเพราะที่นี่มีมหาวิทยาลัยที่หลากหลาย และตัวเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวและย่านการค้ามากมาย รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงง่ายและสะดวกสุดๆ มีทั้งรถประจำทาง รถไฟบนดิน รถไฟใต้ดิน แทกซี่ หรือแม้แต่อูเบอร์ ฉะนั้นการใช้ชีวิตนอกห้องเรียนของนักเรียนไทยในกลาสโกว ก็จะสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ มีกิจกรรมมากมายให้แต่ละคนเลือกทำ แล้วแต่สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนว่าแต่กิจกรรมที่พวกเขาทำกันมีอะไรกันบ้างนะ เราไปดูกันเลย

อย่างแรกก็คงหนีไม่พ้นเรื่องช็อปปิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่มีถนนคนเดินที่เลื่องชื่อ และถือว่าเป็นศูนย์รวมย่านการค้าใจกลางเมืองอย่างถนนบูคานัน (Buchanan street) ซึ่งเชื่อมยาวไปถึงถนนเซนต์อีน็อก (St Enoch street) มีร้านค้าแบรนด์เนมอยู่มากมายติดถนนไปจนสุดสาย ทั้งเสื้อผ้าอย่าง H&M Gap Northface Superdry AllSaints Topshop Topman รองเท้าแบรนด์เนมอย่าง Timberland Sketchers ห้างศูนย์รวมเครื่องสำอาง และคอสเมติกอย่าง House of Fraser กระเป๋าแบรนด์เนมอย่าง Gucci รวมไปถึงย่านร้านนาฬิกา อย่าง Argyll Arcade ที่เป็นศูนย์รวมนาฬิกาหรูทุกประเภท ทั้งมือหนึ่งและมือสอง เรียกได้ว่าเอาใจคนรักนาฬิกากันไปเลย 

นอกจากนี้ที่ในบริเวณใกล้เคียงกันก็ยังมีห้างสรรพสินค้าอย่าง John Lewis & Partners และ Debenham ที่ภายในห้างก็จะมีร้านเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าและของใช้อื่นๆอีกมากมาย ที่ราคาเป็นมิตรกับนักเรียนอย่างเรามากกว่า ฉะนั้นช็อปปิ้งจึงเป็นกิจกรรมหลักที่นักเรียนไทยในกลาสโกวเลือกทำในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์  

หลายคนคงสงสัย แล้วพวกร้านสะดวกซื้อที่ขายเนื้อ ผัก ผลไม้ล่ะ แน่นอนครับว่าสำหรับนักเรียนไทยในต่างแดนอย่างพวกเรา คงพบเจอกับปัญหารสชาติอาหารที่ไม่ค่อยถูกปาก ทำให้บางครั้งการทำอาหารทานเองที่บ้านจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะรสชาติดีกว่าแล้ว ยังประหยัดกว่าไปทานร้านอาหารข้างนอกหลายเท่าตัวกันเลยทีเดียว สำหรับร้านสะดวกซื้อที่ขายพวกวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารในกลาสโกวนั้นก็มีให้เลือกมากมาย เช่น Aldi Saintsbury TescoExpress TescoMetro มีเนื้อ ผัก ผลไม้ เครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงของใช้สอยภายในบ้านให้ซื้อครบครัน ราคาก็ย่อมเยาว์ อันนี้ต้องขอแนะนำหน่อยว่าเนื้อปลาแซลม่อนที่นี่นั้นถูกกว่าที่ไทยมากเน้อ ซื้อมาย่างกินเองที่บ้านถือบ้านถือว่าคุ้มสุดๆ สเต๊กเนื้อก็เช่นกัน
เนื้อโคขุนของที่นี่ถือว่ารสชาติค่อนข้างดี และราคาไม่แพงจนเกินไป สายเนื้อไม่ควรพลาดเลยนะ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของชำจีน ที่จะขายพวกวัตถุดิบทำอาหารต่างๆที่ใช้ปรุงอาหารสไตล์เอเชียแบบบ้านเรา ทั้งพริกขี้หนู ขิง ข่า ตะไคร้ กะปิ ผักดอง กระชาย อบเชย หรือสมุนไพรต่างๆที่นำมาใช้ทำแกงแบบไทยๆ ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ก็สามารถหาซื้อที่นี่ได้หมด ว่าแล้วก็เริ่มสงสัยว่ามาเรียนหนังสือหรือมากินกันแน่นะ ต้องรีวิวกันหน่อยว่า นักเรียนไทยที่มาเรียนที่นี่นั้นนอกจากจะได้รับใบปริญญากลับไปแล้ว ยังได้ฝีมือการปรุงอาการกลับไปเป็นของแถมกันด้วยล่ะ 

พูดถึงกิจกรรมนอกห้องเรียนอื่นๆในช่วงวันปกติ สำหรับนักเรียนไทยที่นี่นั้น ก็มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย เช่นเล่นกีฬา ดูหนัง ดูซีรี่ย์ หรือออกไปเข้าสังคมกับเพื่อนฝูง บางคนก็รับทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทย อย่างร้านอาหารไทยสยาม (Thai Siam Restaurant) ถือได้ว่าเป็นร้านที่มีนักเรียนไทยไปทำงานเยอะที่สุด นอกจากจะได้ค่าเหนื่อยแล้ว ยังมีอาหารฟรีให้กินตอนปิดร้านอีกด้วยนะ หลายๆคนก็จะมีจัดปาร์ตี้อาหารไทย ชวนเพื่อนๆคนไทยมาทำกับข้าวกินกันในหอพัก เนื่องจากหอพักหลายแห่งบริเวณมหาวิทยาลัยก็จะไม่ไกลกันมาก เดินถึงกันได้สะดวก การจัดอีเวนท์เล็กๆ เช่นปาร์ตี้ จองห้องดูหนัง ตีปิงปอง แทงพูล เล่นบอร์ดเกม จึงทำได้สะดวก เนื่องจากโดยส่วนมากหอพักที่นักเรียนไทยเลือกเข้าพัก จะเป็นในลักษณะของ Student Accommodation ที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยเฉพาะบริเวณสันทนาการ ที่จะมีทั้งโต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง หรือแม้กระทั่งห้องดูหนัง (Cinema Room) ก็มีให้บริการ  นอกจากนี้บริเวณมหาวิทยาลัยยังมีบาร์สำหรับนั่งดื่มชิวๆกับเพื่อนๆ แถมยังมีดนตรีสดที่เปิดคลอๆทั้งแบบคลาสสิคและแจ๊ส ที่ทำให้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาดีๆ ในระหว่างที่นั่งเม้ามอยกัน ต้องรีวิวกันหน่อยว่าเบียร์สดที่นี่นั้นราคาถูกกว่าที่ไทยมาก เอาใจสายดริ๊งกันไปเลย และที่สำคัญที่สุดคือมีถ่ายทอดฟุตบอลด้วยนะ 

ส่วนใครเป็นคอบอลไม่ต้องห่วงเลยว่าจะพลาดแมทช์สำคัญ เพราะที่นี่ถ่ายทอดสดฟุตบอลด้วยจอโปรเจคเตอร์ขนาดยักษ์ ฟินๆกันไปเลยจ้า ฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าหากมาเรียนที่กลาสโกวแล้วจะเหงา 
เพราะเราจะได้พบเพื่อนใหม่ๆเยอะมาก ที่สำคัญสนิทกันเร็ว อีกทั้งที่นี่มีกิจกรรมนันทนาการให้นักเรียนไทยได้ใช้เวลาร่วมกันอยู่บ่อยๆเลยทีเดียวล่ะ 

ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะมีกิจกรรมให้เลือกทำหลายอย่าง สำหรับใครที่ชอบปลีกวิเวก อยากหามุมสงบสำหรับอ่านหนังสือ ที่มหาวิทยาลัยก็มีห้องสมุดที่เงียบสงบให้บริการ หรือใครเป็นสไตล์ชอบอ่านหนังสือตามร้านกาแฟ ต้องขอบอกเลยว่า กลาสโกวเป็นเมืองที่มีร้านกาแฟน่านั่งเยอะมาก โดยเฉพาะบริเวณ West End ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยกลาสโกว จะเป็นโซนที่ค่อนข้างสงบ คนไม่พลุกพล่าน และมีร้านกาแฟดีๆหลายร้าน สามารถไปนั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้าน พร้อมกับจิบกาแฟดีๆ ทานครัวซองร้อนๆ ฟินๆกันจ๊าาาาา！

สำหรับใครที่รักการเล่นกีฬา แน่นอนว่านักเรียนไทยที่กลาสโกวมีก็มีก๊วนเล่นกีฬาเยอะมาก
ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล แบตมินตัน โดยเฉพาะยิมของมหาวิทยาลัยนั้น ก็มีบริการที่เพรียบพร้อมทั้งฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครับครัน คอร์ตแบตมันตัน สนามบาสเกตบอลและฟุตบอลในที่ร่ม ใครอยากใช้บริการก็แค่เข้าไปจองผ่านแอพของมหาวิทยาลัย สะดวกสบายสุดๆ หรือใครอยากเตะฟุตบอลกลางแจ้งก็มีสนามหญ้าเทียมให้จอง ต้องขอบอกว่าฟุตบอลถือเป็นหนึ่งในกีฬายอดฮิตของนักเรียนไทยที่นี่เลย จะมีการนัดเตะฟุตบอลกันทุกอาทิตย์ และล่าสุดยังมีการส่งทีมเข้าแข่งขันกีฬาของสมาคมนักเรียนไทย ในสหราชอาณาจักรที่เรียกว่ากีฬาสามัคคีเกมส์กันด้วยนะ งานนี้ไม่เพียงแค่จะได้สนุกกับการเล่นกีฬากับเพื่อนๆเท่านั้น
แต่ยังได้มีโอกาสพบเพื่อนใหม่ๆที่อยู่ต่างเมืองทั้งในอังกฤษและสก็อตแลนด์กันด้วยนะเออ 

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด 
สำหรับคนรักการท่องเที่ยว แน่นอนว่าที่ในเมืองกลาสโกวเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกไปมากมาย ทั้งแนวประวัติศาสตร์ แนวธรรมชาติ หรือแนวสถาปัตยกรรม เช่น เดินเสพงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเควินกรู๊ฟ (Kelvingrove Art Gallery and Museum) เดินชมดอกไม้ที่สวนพฤกษศาสตร์ (Glasgow Botanic Garden) เดินชมสถาปัตยกรรมเก่าในมหาวิทยาลัยกลาสโกว (University of Glasgow) และสถานที่อื่นๆอีกมากมายที่สามารถให้เดินเข้าไปเก็บรูปสวยๆในช่วงวันหยุด บอกได้เลยว่าแต่ละที่ล้วนมีเสน่ห์ที่จะทำให้หลายๆคนตกหลุมรักเมืองนี้เข้าอย่างจัง

หากใครที่ชอบท่องเที่ยวต่างเมือง แน่นอนว่านักเรียนไทยในกลาสโกวก็มีก๊วนชอบท่องเที่ยวเหมือนกันนะ สถานที่ก็มีให้เลือกไปมากมาย หากเน้นเที่ยวใกล้ๆที่ใช้เวลาเพียงวันหรือสองวัน ก็มีเมืองหลวงอย่างเอดินเบอระ (Edinburgh) หรือจะไปเที่ยวเมืองทางตอนเหนืออย่างเช่น เมืองสเตอร์ลิ่ง (Stirling) เมืองโอบาน (Oban) เมืองอะเบอดีน (Aberdeen) เมืองเซนต์แอนดรูว (St Andrew) และอื่นๆอีกหลายเมือง แต่ละเมืองจะมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์อังกฤษ ที่สามารถเดินชมเล่นได้ไม่รู้เบื่อ ที่สำคัญการเดินทางไปนั้นก็สะดวกรวดเร็วเพียงไม่กี่ชั่วโมงโดยรถไฟ
หรือจะเช่ารถขับกันไปในกรณีที่มีเพื่อนไปด้วยหลายคนซึ่งก็จะคุ้มกว่า 

สำหรับที่เที่ยวสายธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดเลยนั้น แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น Highland
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงธรรมชาติที่สวยที่สุดในเกาะอังกฤษเลยก็ว่าได้ ทุกคนจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่กว้างใหญ่ไพศาล ที่มาคู่กับวิวแม้น้ำลำธารและทะเลสาบที่สวยงามราวกับฉากที่หลุดมาจากเทพนิยายกันเลยทีเดียวนะเออ สำหรับทริปเที่ยว Highland นั้นอาจะต้องใช้เวลาเที่ยวนานหน่อย โดยประมาณห้าวันเป็นอย่างต่ำ และแนะนำให้เช่ารถขับกันไปกับเพื่อนๆหลายคนจะคุ้มและสะดวกสบายกว่ามาก
โดยในรายละเอียดจะไม่ขอลงลึก หากว่ามีใครสนสามารถค้นหาข้อมูลตามในเว็บต่างๆได้เลยนะเออ  

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับรีวิวชีวิตนักเรียนไทยในกลาสโกว ทั้งน่าสนุกและตื่นเต้นกันที่เดียวเลย ใช่ไหมครับ ต้องขอบอกเลยว่ากลาสโกวเป็นเมืองที่น่าอยู่และน่ามาเรียนหนังสือเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย และนักเรียนไทยที่นี่ก็อัธยาศัยดีกันทุกคน ไม่ต้องกลัวว่าใช้ชีวิตที่นี่แล้วจะเหงาหรือชีวิตขาดสีสันกหวังว่าทุกคนจะสนุกกับการอ่านบทความ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ 

------

・Box Moving ｜Holiday Storage ｜ Shipping to Thailand
・Follow SNOWL Post to discover UK/EU