Open House London งานเปิดบ้านให้คุณเข้าชมภายในสถานที่สุด Exclusive ที่มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น!



Writer: Vee

คุณเคยอยากจะแวะเวียนเข้าไปที่ตึกบางแห่งหรือสถานที่บางที่ๆดูแล้วเข้ายากเข้าเย็นเหลือกัน เราไม่ได้หมายถึงเดินเข้าไปยากนะ แต่หมายถึงด้วยกฏและข้อบังคับต่างๆ ถ้าคุณยังนึกไม่ออกว่าเป็นยังไง เราจะยกตัวอย่างเช่นการได้เดินเข้าไปชมภายในบ้านเลขที่ 10 ที่เป็นบ้านพักและที่ทำงานของนายกรัฐมนตรีแห่งเกาะอังกฤษ แน่นอนว่ามันว่าไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกเพราะคุณจะต้องถูกเช็คประวัตินิดหน่อยและต้องไปจับฉลากแข่งกับคนอื่น แต่ก็ยังพอมีโอกาสอยู่นะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นแค่เพียงช่วงนี้ของปีเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Open House Weekend ประจำปี หากคุณอยากจะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานนี้ ตามไปอ่านกันต่อได้เลย



What is "Open House London"?

งาน Open House London คืองานเทศกาลเกี่ยวกับสถาปตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่จะเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมตึกต่างๆกว่า 800 แห่ง รวมทั้งมีการเดินชม พูดคุย และแนะนำประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับสถานที่นั้นโดยทั้งหมดนี้จเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์เดียวของเดือนกันยายนในแต่ละปี โดนงานนี้จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1992 โดย Victoria Thornton ผู้ที่คิดว่าการให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมตึกต่างๆทั่วเมืองนั้นจะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่สาธารชน และเป็นประโยชน์แก่งานออกแบบที่ดีที่ควรได้รับการชื่นชม จนถึงตอนนี้ งานนี้ยังคงดำเนินไปภายใต้แนวความคิดเดิมตั้งแต่ต้น แต่มีการเพิ่มเติมการร่วมมือกับสาธารณะมากยิ่งขึ้นด้วยการเปิดรับอาสาสมัครมาช่วยงานในช่วงที่จัดงาน รวมถึงเปิดโอกาสให้ทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นบริษัทระดับโลก หรือเจ้าของบ้านหลังน้อย ได้ร่วมโชว์สถานๆที่ของตัวเอง


Why you can't miss this event?

เหตุผลง่านๆเพียงข้อเดียวเลยคือมันฟรีนั้นเอง ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมตึกได้นับร้อย และหลายๆแห่งในนั้นคุณก็ไม่สามารถเข้าไปได้ในวันทั่วๆไปอีกด้วย และอีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่ควรพลาดงานนี้ก็เพราะว่ามันจัดแค่ปีละครั้งเท่านั้น หากคุณพลาดโอกาสนี้ไป คุณจะต้องรอไปถึงกันยายนปีหน้าเลยนะ เราเดราว่าคุณไม่อยากจะเสียเวลาทิ้งไปทั้งปีหรอกเพื่อรอรอบหน้า


How to join the event?

ก่อนอื่นเลยคุณควรเข้าไปดูที่เวปไซต์หลักของงานที่ https://openhouselondon.org.uk/ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติทเกี่ยวกับงานนี้ โดยที่คุณจะได้พอเห็นภาพคร่าวๆเกี่ยวกับงาน จากนั้นคุณสามารถไปดูลิสท์รายการของตึกที่เข้าร่วมงานได้ที่ https://openhouselondon.open-city.org.uk/ โดยในหน้านี้คุณจะสามารถเลือกปรับแต่งการค้นหาได้ตั้งแต่ วันที่เข้าร่วม เขตที่ตั้ง ช่วงเวลาของสถาปตยกรรมยุคนั้น รูปแบบของสถาปตยกรรม สิ่งอำนวยความสะดวก โดยที่คุณสามารถบีบความสนใจให้แคบลงเพื่อจะได้เจอสิ่งที่คุณสนใจมากที่สุดและตรงที่สุด มันง่ายกว่าไปนั่งไล่ดูทีละตึกจริงๆไหมมันมีเป็นร้อยเลยนะ โดยเมื่อคุณเข้าไปดูในหน้าของตึกที่คุณสนใจแล้วคุณจะพบกับข้อมูลทุกๆอย่างทั้ง สถานที่ การเข้าชม ประวัติ และอื่นๆ ที่ถูกระบุไว้ในหน้านั้น นอกเหนือจากหน้าเวปไซต์ที่คุณจะสามารถหาข้อมูลได้แล้ว ยังมีอีก 2 ช่องทางในการหาข้อมูลเกี่ยวกับงาน "Open House London Guide 2019" เป็นหน้งสือแนะนำเกี่ยวกับงานสามารถซื้อทางออนไลน์ได้ราคาประมาณ £10 ผ่านทางลิ้งค์นี้ และอีกช่องทางหนึ่งคือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่นี่



Top 10 Highlights 
"Open House London 2019"

Photo Credit: openhouselondon

Freemasons' Hall

Freemasons' Hall houses the headquarters of the United Grand Lodge of England. The building dating from 1927-1933 covers two acres. Its design, an irregular hollow pentagon with the Grand Temple in the center, adopts a diagonal axis to cope with the awkward shape of the site. The present building, the third Masonic Hall on the site, was built as a memorial to those who died in the 1914-1918 War and was for many years known as the Masonic Peace Memorial. The architects were H V Ashley and F Winton Newman whose other major commissions included the Council House extension and Art Gallery in Birmingham, Clive House (the Passport Office) in Petty France, and London and Cheltenham Technical College as well as housing schemes and hospitals.
---

Balfron Tower

หนึ่งในตัวอย่างที่ดีของที่พักอาศัยจากเขตเทศบาลในลอนดอน ใน Poplar ทางเขตเทศบาลได้พบจุดที่เหมาะแก่การสร้างเป็นตึกสำหรับพักอาศัยถูกออกแบบโดย Erno Goldfinger ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักดีในการสร้างตึกสูงที่เป็นแบบอย่างในช่วงสงคราม ตึกแห่งนี้ยังรับได้ว่าเป็นหนึ่งในตึกสุดท้ายที่ถูกออกแบบใน

---

Photo Credit: openhouselondon

Camden Highline

The Camden Highline ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1852 โดยเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟในส่วนเหนือของเมืองลอนดอน ซึ่งตอนนี้ก็คือส่วนของสาย London Overground ที่ครอบคลุมทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน ซึ่งมันถูกพักการใช้งานไปนานกว่า 30 ปี ซึ่งในตอนนี้ได้มีกลุ่มคนในชุมชุนตั้งใจที่จะเปลี่ยน ทางรถไฟความยาวกิโลกว่าๆนี้ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ด้วยการสำเป็นสวนลอยฟ้าที่สามารถเดินเชื่อมต่อจาก Camden Town ไปสู่ King’s Cross ภายในระยะเวลา 10 นาที โดยเส้นทางจะเริ่มจากถนน Kentish Town Road มุ่งหน้าไปทางตะวันออกบนถนน Caledonian Road ต่อไปที่  Camley Streetซึ่งจะนำไปสู่ King’s Cross โดยทั้งหมดนี้จะข้ามถนน 8 สาย และ 7 สะพานด้วยกัน

City, University of London


สถานที่แห่งนี้นับว่ามีประวัติมายาวนานเกินกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในเขต Islington ถูกสร้างขึ้นบนที่บริจาค ที่เปิดใช้ในปี 1989 และในตอนแรกมีชื่อว่า Northampton Institute นอกจากที่ๆแห่งนี้จะอยู่มานานเป็นร้อยปีแล้ว มันยังฝ่าฟันหลายๆเหตุการณ์สำคัญมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งการทิ้งระเบิดในสงครามโลก ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 2002 โดยในปีนี้จะครบรอบ 125 ปี

---

Photo Credit: openhouselondon

Roca London Gallery

คุณจะต้องหลงรักที่นี่หากคุณหลงรักการไปแกเลอรี่ และชอบทุกอย่างเกี่ยวกับงานออกแบบ แนวความคิดสำหรับการออกแบบสถานที่แห่งนี้นั้นเริ่มต้นกับน้ำ รูปร่างในหลายๆแบบของน้ำ ได้กลายมาเป็นแนวความคิดในการสร้างพื้นที่และการประยุกต์ใช้รวมกับการนวัตกรรม โดยทุกๆพื้นที่ในนี้จะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยการเคลื่อนไหวของน้ำจากที่เห็นเป็นเส้นสายไหลลื่นไปตามส่วนต่างๆของอาคาร

---

Photo Credit: openhouselondon

Baitul Futuh Mosque

มัสยิดแห่งนี้ถือเป็นมัสยิดที่มีความกลมกลืนไปกับยุคสมัยอย่างสวยงามโดยไม่มีช่องว่างมาคั้นกลาง
This is the modern mosque that beautifully blends into the modern world without a gap. The Baitul Futuh mosque ตั้งอยู่ที่ Morden ถูกสร้างขึ้นในปี 2003 และเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป รวมทั้งเป็นสำนักงานใหญ่ของกลุ่มมุสลิม Ahmadiyya เป็นหนึ่งในสาขาของศาสนาอิสลามที่ก่อตั้งในอินเดียตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมัสยิดแห่งนี้มีจุดเด่นที่โดมเหล็กบนยอดตัวอาคาร

---

Photo Credit: ucl

Foreign and Commonwealth Office

อีกหนึ่งสถานที่ทำงานของหน่วยงานจากรัฐบาลที่มีความสวยงามด้วยลวดลายงานเขียนบนฝาผนัง และการตกแต่งแบบ Victorian ดั้งเดิม ซึ่งทุกอย่างยังคงความคลาสสิกไว้เหมือนครั้งแรกที่มันถูกสร้างขึ้นโดยมีการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้างเพื่อให้คงความแข็งแรงเอาไว้ โดยในงานจะมีการให้ความรู้ข้อมูล และเหตุการณ์สำคัญๆต่างๆที่เกิดขึ้นภายในที่ๆแห่งนี้ ตามไปดูกันได้เข้าฟรีและไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย

---

Photo Credit: buildington

BT Tower

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเห็นตึกแห่งนี้อย่างแน่นอนด้วยความสูงที่โดดเด่นของมัน ซึ่งมันถูกควบคุมงานสร้างโดย Eric Bedford ตั้งแต่ปี 1961 จนถึง 1965 โดยใช้เวลาเพียง 4 ปี ก็สร้างเสร็จ และนอกจากนี้มันยังถือเป็นสิ่งก่อสร้างแห่งแรกที่ถุกสร้างขึ้นเพื่อส่งคลื่นสัญญาณความถี่ในบ่านสูงโดยเฉพาะ หากคุณได้มีโอกาสขึ้นไปบนนั้น มันยังมีร้านอาหารที่จะหมุนไปรอบๆตลอดๆเวลาทำให้คุณได้เห็นวิวแบบ 360 องศาเลยแหละ

---

Photo Credit: reddit

Alexandra and Ainsworth Estate

แฟลตแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1978 ซึ่งถือเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกๆหลังจากช่วงสงครามในช่วงเวลานั้น ซึ่งจะมีความโดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบของ brutalist ซึ่งถูกออกแบบโดย Neave Brown จาก Camden's Architects' Department โดยจุดประสงค์ในการออกแบบนี้ต้องการให้จุผู้พักอาศัยได้สูง แต่มีความสูงของตัวอาคารไม่มาก และสามารถใช้งานได้หลากหลาย

---

Photo Credit: secretldn

Leighton House Museum

บ้านหลังนี้เป็นถือเป็นทั้งบ้านพักอาศัยในรูปแบบ Victorian ที่ยอดเยี่ยมและโดดเด่น รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะในยุค Victorian อย่างหลากหลาย โดยมีเจ้าของเดิมคือ Frederic Leighton ผู้ที่ตั้งใจจะสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็นที่สำหรับรวบรวมและจัดแสดงงานศิลปะ โดยเปรียบกับบ้านหลังนี้เป็นเหมือนงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่ง

---

Photo Credit: telegraph

Crystal Palace Subway

สถานีอันสวยงามแห่งนี้ถูกซ่อนอยู่ใต้ถนน A212 ซึ่งถูกออกแบบโดย Charles Barry Junior และเปิดใช้งานในวันที่ 23 ธันวาคม 1865 เพื่อใช้เชื่อมต่อกับ อีกสถานทีบนดินที่อยู่ในตัววัง ซึ่งถูกไฟไหม้ไปในปี 1936 และสถานนี้ก็ถูกปิดตัวตามลงไปด้วย คงเหลือไว้เพียง โครงสร้างการตกแต่งในรูปแบบ Victorian  นอกจากนี้มันยังถูกใช้ในหลายๆสถานการณ์เช่นหลุมหลบภัยในช่วงสงครามโลกอีกด้วย แต่หลังจากนั้นก็ถูกปิดลงเนื่องจากควาไม่ปลอดภัย และถูกเปิดเปิดขึ่นอีกครั้งในปี 2013 เพื่อใช้ในสาธารณะประโยชน์

---


More tips about the event

ลองไปดูที่บนหน้าเวปไซต์หลัก จะมีหน้าที่ชื่อว่า "self-guided itineraries" ที่ลิ้งค์นี้ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการวางแผนการเดินทางของคุณ หรืออีกอย่างคือมีคนวางแผนไว้ให้เรียบร้อยแล้วโดยที่คุณจะมีข้อมูลทั้งหมดในโปรแกรมการเดินทางทั้งสถานที่ วันเวลา และ ระยะเวลาของตลอดทั้งการเดินทาง ทั้งหมดที่คุณต้องทำเพียงเลือกรูปแบบของสถานที่ๆคุณสนใจและตามแผนการเดินทางไปได้เลยง่ายๆเท่านั้นเอง โดยเขามีรูปแบบของตึกต่างๆให้เลือกดังนั้น Social Housing, Government/High Commission, Families, Award Winners, Social Infrastructure, Instagrammable, Inspiring Homes, Foster + Partners, Old Oak and Park Royal.


ก่อนจากกันเราขอเตือนอีกครั้งนะว่าแม้ทุกๆตึกที่เข้าร่วมงานครั้งนี้จะฟรี แต่บางแห่งนั้นก็ต้องมีการจองล่วงหน้าด้วย แต่หากคุณไปตามแผนการเดินทางด้วยตัวเองที่เราแนะนำแล้วหละก็ ("self-guided itineraries") คุณไม่ต้องห่วงเรื่องการจองล่วงหน้าสามารถเดินเข้าได้เลยตามวันที่ระบุไว้ และเดินเล่นได้ทั่วตามที่ทางสถานที่กำหนดไว้ เราหวังว่าคุณคงมีความสุขกับงาน Open House ในลอนดอนของปีนี้กันนะ กลับมาเล่าให้เราฟังบ้างหละ อย่าฟังใจจะขาดแล้ว

------

・Box Moving |Holiday Storage | Shipping to Thailand
・Follow SNOWL Post to discover UK/EU


Comments

  1. การดูแลผิวหน้าให้ขาวใสไร้สิวนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะว่าบนโลกนี้มีปัจจัยหลายอย่างมากๆ ที่มีผลต่อผิวหน้าของเรา
    Ulthera เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า
    https://thecloverclinic.info
    .

    ReplyDelete

Post a Comment

Add LINE@ Friends